put และ call option

Nattawat Songsom
2 min readDec 13, 2023

--

note จาก Khan academy Unit 9: Options, swaps, futures, MBSs, CDOs, and other derivatives บท American put & call option, basic shorting

Call option (american call option)

ในการทำกำไรจากการขึ้นราคาของหุ้น มีวิธีไหนบ้าง ?

วิธีง่ายสุดก็จะเป็นการซื้อหุ้น เช่น ซื้อที่ราคา 50 แล้วรอขายที่ราคา 80 จะได้กำไร 30

แต่ยังมีอีกวิธีนึงที่ทำกำไรได้ เรียกว่า call option

โดย call option = การซื้อตั๋วเพื่อจองสิทธิในการซื้อหุ้นที่ราคานึง

เช่น

ตั๋วราคา 5

โดยเป็นตั๋วในการจองซื้อที่ราคา 60

แปลว่า

เราจะเสียเงินในการซื้อตั๋ว 5 (น้อยกว่าเคสซื้อหุ้นตรงๆ เพราะต้องเสียเงินตามราคาหุ้นปัจจุบัน คือ 50)

โดยสมมติว่าราคาหุ้นขึ้นไปที่ 80

เราได้จองสิทธิในการซื้อหุ้นที่ราคา 60 เอาไว้แล้ว

แสดงว่าเราจะได้เงินเมื่อขายหุ้น = 80–60 = 20

โดยเมื่อหักจากทุนในการซื้อตั๋วราคา 5

จะได้ว่าได้กำไร = 20–5 = 15

จะเห็นได้ว่าการซื้อ call option นั้นใช้เงินน้อยกว่าการซื้อหุ้นตรงๆ

แต่ก็สามารถทำกำไรเมื่อหุ้นราคาขึ้นได้เช่นกัน

แต่ไม่ใช่ว่าตั๋วนี้จะใช้ได้ตลอด ไม่งั้นคนซื้อก็คงรอไปเรื่อยๆ จนราคาหุ้นขึ้น

โดยตัว option จะมีวันหมดอายุอยู่

ซึ่งในการดูวันหมดอายุจะขึ้นกับชนิดของ option

  1. option ชนิด american = คนซื้อสามารถแลกตั๋ว เพื่อใช้สิทธิในการทำกำไรได้ ตั้งแต่หลังซื้อจนถึงก่อนวันหมดอายุ

2. option ชนิด british = คนซื้อแลกตั๋ว เพื่อใช้สิทธิในการทำกำไรได้แค่ ณ วันที่ตั๋วหมดอายุ

โอเคการซื้อ call option ทำกำไรเมื่อหุ้นราคาขึ้นได้

แล้วถ้าหุ้นราคาตกละ

เช่น

ตั๋วเดิมของเรามีรายละเอียดคือ

ราคา 5

โดยเป็นตั๋วในการจองซื้อที่ราคา 60

ถ้าราคาหุ้นตกไปต่ำกว่า 60 แล้วไม่ขึ้นมาพ้น 60 อีกเลยจนกระทั่งหมดอายุ

เราก็จะเสียแค่ค่าตั๋ว = 5

โอเค ก่อนจะไปต่อ มา clear keyword กันก่อน

  1. ตั๋วในการซื้อหุ้น ณ ราคาที่กำหนด = call option
  2. ราคาหุ้นที่กำหนดไว้ในตั๋ว = strike price
  3. ราคาตั๋ว = premium price
  4. การใช้ตั๋วเพื่อทำกำไร = exercise option
  5. จำนวนตั๋วที่ซื้อ = share

note: ปกติ share จะขายกันเป็น pack ละ 100 อัน

Basic short

โอเค เมื่อกี้เป็นการทำกำไรเมื่อหุ้นราคาขึ้น

แล้วถ้าจะทำกำไรเมื่อหุ้นราคาตกละ ?

วิธีการง่ายๆคือ

  1. ตอนนี้หุ้นราคา 50 เราก็ไปยืมหุ้นเพื่อนมา
  2. เอาหุ้นที่ยืมมาไปขายทันที ได้เงินมา 50
  3. เมื่อราคาหุ้นลงไปที่ 20 แล้วเราจะคืนหุ้นให้เพื่อน เราก็ไปซื้อหุ้นมาด้วยเงิน 20 แล้วก็เอาไปคืน

จะเห็นได้ว่าเราได้กำไรเมื่อหุ้นลง = 50–20 = 30

แต่ถ้าหุ้นขึ้นละ ?

ถ้าหุ้นขึ้นไปที่ 200

เราก็ต้องไปซื้อหุ้นมาคืนเพื่อน = ใช้เงิน 200

สรุปเราขาดทุน = 50–200 = 150

จะเห็นได้ว่าการ short แบบนี้ไม่ใช้ทุนก็จริง แต่เวลาขาดทุนนี่โดนเยอะเลย

American Put option

จะเป็นด้านกลับกันของ call option

นั่นคือ put option = ตั๋วในการจองสิทธิในการขายที่ราคาหนึ่งๆ

เช่น หุ้นปัจจุบันราคา 50

ราคาตั๋ว = 5

สิทธิในการจองราคาขายที่ระบุในตั๋ว = 40

แสดงว่าเมื่อราคาหุ้นตกไปที่ 20

แต่เราจองสิทธิในการขายหุ้นที่ 40 ไป

ถ้าเราใช้ตั๋ว เราจะได้เงิน = ราคาขายหุ้น — ราคาซื้อหุ้น = 40–20 = 20

โดยเมื่อหักค่าตั๋ว จะได้กำไร = 20–5 = 15

แต่ถ้าราคาหุ้นขึ้นไปสูงกว่า 40 จนกระทั่งตั๋วหมดอายุ เราก็จะเสียค่าตั๋วฟรี

จะเห็นได้ว่าใน case ราคาหุ้นขึ้น การซื้อ put option เสียเงินแค่ 5 แต่การ short เสียเงิน 150

Reference

--

--

No responses yet