put และ call option
note จาก Khan academy Unit 9: Options, swaps, futures, MBSs, CDOs, and other derivatives บท American put & call option, basic shorting
Call option (american call option)
ในการทำกำไรจากการขึ้นราคาของหุ้น มีวิธีไหนบ้าง ?
วิธีง่ายสุดก็จะเป็นการซื้อหุ้น เช่น ซื้อที่ราคา 50 แล้วรอขายที่ราคา 80 จะได้กำไร 30
แต่ยังมีอีกวิธีนึงที่ทำกำไรได้ เรียกว่า call option
โดย call option = การซื้อตั๋วเพื่อจองสิทธิในการซื้อหุ้นที่ราคานึง
เช่น
ตั๋วราคา 5
โดยเป็นตั๋วในการจองซื้อที่ราคา 60
แปลว่า
เราจะเสียเงินในการซื้อตั๋ว 5 (น้อยกว่าเคสซื้อหุ้นตรงๆ เพราะต้องเสียเงินตามราคาหุ้นปัจจุบัน คือ 50)
โดยสมมติว่าราคาหุ้นขึ้นไปที่ 80
เราได้จองสิทธิในการซื้อหุ้นที่ราคา 60 เอาไว้แล้ว
แสดงว่าเราจะได้เงินเมื่อขายหุ้น = 80–60 = 20
โดยเมื่อหักจากทุนในการซื้อตั๋วราคา 5
จะได้ว่าได้กำไร = 20–5 = 15
จะเห็นได้ว่าการซื้อ call option นั้นใช้เงินน้อยกว่าการซื้อหุ้นตรงๆ
แต่ก็สามารถทำกำไรเมื่อหุ้นราคาขึ้นได้เช่นกัน
แต่ไม่ใช่ว่าตั๋วนี้จะใช้ได้ตลอด ไม่งั้นคนซื้อก็คงรอไปเรื่อยๆ จนราคาหุ้นขึ้น
โดยตัว option จะมีวันหมดอายุอยู่
ซึ่งในการดูวันหมดอายุจะขึ้นกับชนิดของ option
- option ชนิด american = คนซื้อสามารถแลกตั๋ว เพื่อใช้สิทธิในการทำกำไรได้ ตั้งแต่หลังซื้อจนถึงก่อนวันหมดอายุ
2. option ชนิด british = คนซื้อแลกตั๋ว เพื่อใช้สิทธิในการทำกำไรได้แค่ ณ วันที่ตั๋วหมดอายุ
โอเคการซื้อ call option ทำกำไรเมื่อหุ้นราคาขึ้นได้
แล้วถ้าหุ้นราคาตกละ
เช่น
ตั๋วเดิมของเรามีรายละเอียดคือ
ราคา 5
โดยเป็นตั๋วในการจองซื้อที่ราคา 60
ถ้าราคาหุ้นตกไปต่ำกว่า 60 แล้วไม่ขึ้นมาพ้น 60 อีกเลยจนกระทั่งหมดอายุ
เราก็จะเสียแค่ค่าตั๋ว = 5
โอเค ก่อนจะไปต่อ มา clear keyword กันก่อน
- ตั๋วในการซื้อหุ้น ณ ราคาที่กำหนด = call option
- ราคาหุ้นที่กำหนดไว้ในตั๋ว = strike price
- ราคาตั๋ว = premium price
- การใช้ตั๋วเพื่อทำกำไร = exercise option
- จำนวนตั๋วที่ซื้อ = share
note: ปกติ share จะขายกันเป็น pack ละ 100 อัน
Basic short
โอเค เมื่อกี้เป็นการทำกำไรเมื่อหุ้นราคาขึ้น
แล้วถ้าจะทำกำไรเมื่อหุ้นราคาตกละ ?
วิธีการง่ายๆคือ
- ตอนนี้หุ้นราคา 50 เราก็ไปยืมหุ้นเพื่อนมา
- เอาหุ้นที่ยืมมาไปขายทันที ได้เงินมา 50
- เมื่อราคาหุ้นลงไปที่ 20 แล้วเราจะคืนหุ้นให้เพื่อน เราก็ไปซื้อหุ้นมาด้วยเงิน 20 แล้วก็เอาไปคืน
จะเห็นได้ว่าเราได้กำไรเมื่อหุ้นลง = 50–20 = 30
แต่ถ้าหุ้นขึ้นละ ?
ถ้าหุ้นขึ้นไปที่ 200
เราก็ต้องไปซื้อหุ้นมาคืนเพื่อน = ใช้เงิน 200
สรุปเราขาดทุน = 50–200 = 150
จะเห็นได้ว่าการ short แบบนี้ไม่ใช้ทุนก็จริง แต่เวลาขาดทุนนี่โดนเยอะเลย
American Put option
จะเป็นด้านกลับกันของ call option
นั่นคือ put option = ตั๋วในการจองสิทธิในการขายที่ราคาหนึ่งๆ
เช่น หุ้นปัจจุบันราคา 50
ราคาตั๋ว = 5
สิทธิในการจองราคาขายที่ระบุในตั๋ว = 40
แสดงว่าเมื่อราคาหุ้นตกไปที่ 20
แต่เราจองสิทธิในการขายหุ้นที่ 40 ไป
ถ้าเราใช้ตั๋ว เราจะได้เงิน = ราคาขายหุ้น — ราคาซื้อหุ้น = 40–20 = 20
โดยเมื่อหักค่าตั๋ว จะได้กำไร = 20–5 = 15
แต่ถ้าราคาหุ้นขึ้นไปสูงกว่า 40 จนกระทั่งตั๋วหมดอายุ เราก็จะเสียค่าตั๋วฟรี
จะเห็นได้ว่าใน case ราคาหุ้นขึ้น การซื้อ put option เสียเงินแค่ 5 แต่การ short เสียเงิน 150